วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

5 เรื่องต้องรู้...ก่อนเริ่มอาหารเสริม


ลูกเริ่มมีความจำเป็นต้องทานอาหารเสริม เมื่อลูกมีอายุครบ 6 เดือน เพราะเด็กวัยนี้ร่างกายเริ่มต้องการอาหารเสริมที่เพิ่มจากนมแม่ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกาย แต่ก็จะเริ่มให้อาหารเสริม คุณแม่ควรมีความรู้ในเรื่องอาหารเสริม  

อย่าเริ่มเร็วก่อนกำหนด
อย่าเริ่มอาหารเสริมลูกก่อนวัย 6 เดือน เพราะการเริ่มให้เร็วเกินไป ระบบย่อยอาหารของลูกยังไม่พร้อม อาจจะเกิดอาการท้องอืดได้

เริ่มทีละอย่าง
ช่วงแรกของการเริ่มให้อาหารเสริม คุณแม่ควรทดลองให้ลูกทานอาหารเสริมทีละอย่าง เพื่อจะได้สังเกตว่า ลูกแพ้อาหารนั้นหรือไม่  และการเริ่มทีละอย่างเป็นการเริ่มให้ลูกเริ่มคุ้นเคยกับรสชาติของอาหาร


     เริ่มทานทีละน้อย
เริ่มต้นทานช่วงแรกๆ  ควรเริ่มป้อนประมาณ 1-2 ช้อนชาก่อน เพือให้ลูกคุ้นเคย แรกๆ อาจจะมีการดุนออกจากปากบ้าง หันหน้าหนีบ้าง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ และจะค่อยๆ ดีขึ้น หลังจากเริ่มคุ้นเคยก็ค่อยๆเพิ่มอาหารทีละนิด แต่่ก็ไม่ควรให้ทานเยอะเกินไป เพราะกระเพาะเด็กแต่ละคนมีความอิ่มไม่เท่ากัน

เริ่มกินผักก่อนผลไม้
การที่ลูกเริ่มทานผักก่อน เพราะผักมีรสชาติที่อ่อนกว่าและหวานน้อยกว่าผลไม้ ซึ่งพ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะมองข้ามเรื่องนี้ หากเริ่มที่ผลไม้ก่อนลูกอาจจะชินกับรสหวาน จนไม่ชอบทานรสผัก

เริ่มกินไข่แดงก่อนไข่ขาว 
คุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจจะสงสัยว่า ทำไมต้องเริ่มทานไข่แดงก่อนไข่ขาว เพราะ ไข่ขาวมีโปรตีนที่ชื่อว่า "โอวัลบูมิน" (Ovalbumin) ซึ่งเป็นโปรตีนที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ช่วงเริ่มอาหารเสริม และไข่ขาวก็ยังย่อยยากกว่าไข่แดง อาจส่งผลให้ระบบย่อยกับลูกได้  

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

วิธีเลือกขวดนมและจุกนม สำหรับคณแม่มือใหม่



          ขวดนมเป็นอีก 1 ของใช้ที่จำเป็นมากๆ สำหรับลูกน้อยแรกคลอด  คุณแม่มือใหม่อาจจะยังกังวลกับการเลือกขวดนมและจุกนมสำหรับลูกน้อยอย่างไรดี  วันนี้แอดมินแม่ ญ มีวิธีเลือกมาแนะนำค่ะ



วิธีเลือกซื้อขวดนม
  • ขนาดของขวดนมที่เหมาะกับลูกน้อยแรกคลอดควรเป็นขนาด 4 ออนซ์ เพราะกระเพราะของเด็กแรกคลอดยังเล็ก แต่ละมื้อยังกินไม่มากนัก แต่ที่ไม่แนะนำขนาด 2 ออนซ์ เพราะว่าในช่วง 1-2 เดือนแรกเด็กโตไว อาจจะต้องซื้อใหม่ทำให้สิ้นเปลือง
  • ควรเลือกซื้อขวดนมที่ปลอดภัยจากสาร BPA Free
  • ขวดนมในปัจจุบันผลิตออกมาหลากหลายรูปแบบ ควรเลือกขวดนมที่ลูกน้อยจับถนัดมือ
  • ควรเตรียมขวดนมไว้อย่างน้อย 6-12 ขวด เนื่องจากบางครั้งคุณแม่อาจต้องเลี้ยงลูกคนเดียว ถ้าช่วงนั้นลูกงอแงหรือไม่ยอมหลับคุณแม่ก็จะไม่มีเวลามาทำความสะอาด อย่างน้อยมีสำรองเก็บไว้ก็อุ่นใจ

วิธีเลือกซื้อจุกนม 
  • การเลือกขนาดของจุกนม ควรเลือกรูจุกนมให้เหมาะกับเด็กในแต่ละช่วงวัย  ปกติจุกนมจะมี 3 ไซส์ คือ ไซส์ S M L ซึ่งไซส์ S จะมีขนาดเล็กสุดซึ่งเหมาะสำหรับลูกน้อยแรกคลอด
  • คุณแม่ควรเลือกจุกนมที่มีข้อมูลระบุ วัน เดือน ปี ที่ผลิตไว้อย่างชัดเจน เพื่อตรวจสอบอายุการใช้งาน
  • โดยทั่วไปจุกนมมีให้เลือก 2 แบบ คือจุกนมแบบซิลิโคน มีสีขาวใสใช้งานได้คงทน และจุกนมแบบสีน้ำตาล จะมีลักษณะนิ่มแต่ใช้งานได้ทนน้อยกว่าแบบซิลิโคน ควรเลือกจุกนมที่ไม่แข็งมีความยืดหยุ่นได้ดี คุณแม่อาจจะซื้อไปลองทั้ง 2 แบบ และลองสังเกตุว่าลูกชอบดูดกับจุกแบบไหน เพราะเด็กบางคนมีความชอบไม่เหมือนกัน



ทราบวิธีเลือกขวดนมและจุกนมสำหรับลูกน้อยแรกคลอดแล้ว คงช่วยให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เลือกซื้อขวดนมและจุกนม ซึ่งเป็นของใช้ที่จำเป็นสำหรับลูกน้อยได้ง่ายขึ้นนะคะ

วันเสาร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ลูกไม่ยอมนั่งชักโครก... ทำอย่างไรดี


คุณพ่อคุณแม่กำลังมองหาวิธีฝึกลูกขับถ่ายในห้องน้ำรึเปล่าค่ะ.....?”  บางท่านอยากรู้ว่าควรจะเริ่มตั้งแต่อายุเท่าไหร่ เพราะเด็กบางคนจะบอกพ่อแม่ก็ต่อเมื่อปัสสาวะรดกางเกงแล้ว หรือจนวินาทีที่อั้นไม่อยู่ ทำให้เกิดความโกลาหลในการพาลูกเข้าห้องน้ำโดยเฉพาะเมื่ออยู่นอกบ้าน 




ดังนั้น การฝึกลูกเข้าห้องน้ำนั้นนอกจากจะให้เด็กใช้ชักโครกเป็นแล้ว ยังรวมถึงการฝึกให้ลูกให้สามารถบอกความรู้สึกล่วงหน้าได้ทันเวลา วิธีที่สามารถฝึกให้ลูกควบคุมตัวเองเพื่อเข้าห้องน้ำให้ทัน เริ่มได้ง่ายๆ ดังนี้


          1. ช่วงอายุที่แนะนำคือ 1ขวบครึ่งถึง2ขวบครึ่ง เพราะเด็กวัยนี้เริ่มสื่อสารถึงความรู้สึกได้แล้ว

          2. ฝึกให้ทานผักผลไม้และดื่มน้ำให้เพียงพอ อาการท้องผูกนั้นทำให้เด็กนั่งชักโครกนานและอาจจะกลัวการขับถ่ายได้

          3. สังเกตช่วงเวลาที่ลูกขับถ่าย อาจะพาลูกนั่งในห้องน้ำก่อนเวลา  หรืออาจจะใช้คำถามเพื่อฝึกเด็กจับความรู้สึกต่างๆได้ เช่น “หนูปวดปัสสาวะมั้ย อยากเข้าห้องน้ำมั้ยลูก?”

          4. ใช้ฝารองนั่งชักโครก หรือ เก้าอี้เล็กๆให้ลูกวางเท้าในแนวราบ เมื่อนั่งแล้วสามารถวางขาโดยที่หัวเข่าอยู่เหนือสะโพกได้

          5. สร้างบรรยากาศที่ดี เช่น อนุญาตให้ลูกนำของเล่นตัวโปรดเข้าห้องน้ำได้ หรือเลือกอุปกรณ์ที่ตกแต่งด้วยลายการ์ตูนที่ลูกชอบ


          จากวิธีข้างต้นจะเห็นว่า  การสร้างทัศนคติที่ดีจากพ่อแม่ให้เด็กๆนั้นจำเป็นมากๆ  หากเด็กรู้สึกกลัวหรือมีประสบการณ์ไม่ดีแล้ว อาจจะต้องเริ่มนับ 1 ใหม่ ดังนั้นการให้กำลังใจและชื่นชมนั้นต้องมีให้ลูกสม่ำเสมอ การฝึกเด็กเรียนรู้ย่อมต้องมีผิดพลาดบ้างแต่ก็ค่อยเป็นค่อยไป สุดท้ายทำได้แน่นอน 


วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

งานศิลปะ เสริมพัฒนาการลูกน้อย



          ศิลปะนั้นมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้โลกกว้างของเด็กๆ โดยเฉพาะ 3ขวบปีแรกของชีวิตนั้น เป็น ช่วงเวลานาทีทองของคุณพ่อคุณแม่ที่จะนำศิลปะมาช่วยเสริมพัฒนาการของลูก ทั้งเรื่องความคิด สติปัญญา และช่วยฝึกทักษะการใช้อวัวยะต่างๆของร่างกาย ทำให้อวัยวะต่างๆนั้นแข็งแรง เป็นรากฐานที่ดีให้ลูกพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ในอนาคตได้ง่ายขึ้น กิจกรรมศิลปะของเด็กๆนั้นมีมากมากมายคะ คุณพ่อคุณแม่เองก็ยังสามารถมีส่วนร่วมกับลูกๆได้ด้วย เช่น



          1.การขีดเขียน เพียงแค่ให้ลูกได้ขีดๆเขียนๆ ก็เท่ากับเราได้ปล่อยให้เด็กก้าวไปสู่โลกไร้ขอบเขตที่ชื่อว่าจินตนาการได้แล้ว เพียงกระดานหรือกระดาษสีขาวก็สร้างพลังแห่งการเรียนรู้ของเด็กๆได้อย่างมหัศจรรย์

          2.งานปั้น เราสามารถหาอุปกรณ์มาให้ลูกตกแต่งได้ด้วยค่ะ เช่น กระดุม ไม้พายสำหรับนวดแป้ง เป็นต้น  งานปั้นนั้นช่วยฝึกการใช้กล้ามเนื้อ การลงน้ำหนักมือ การเรียนรู้มิติต่างๆของรูปทรงได้เป็นอย่างดี

          3.ระบายพู่กัน  การใช้พู่กันระบายสีนั้นให้สัมผัสนุ่มนวล สีน้ำนั้นช่วยให้เด็กได้เรียนรู้จักการผสมสีต่างๆและให้สัมผัสที่แตกต่างจากการใช้สีไม้


          การจัดกิจกรรมศิลปะให้กับเด็กๆนั้น เราสามารถทำได้หลากหลาย สามารถทำได้ทั้งในและนอกสถานที่. ระหว่างที่ลูกเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่มีส่วนร่วมในการต่อยอดความคิดและจินตนาการให้ลูกได้พัฒนาเซลล์สมองของลูกให้เกิดการพัฒนาได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลที่ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญอย่าลืมนำผลงานชิ้นโปรดของลูกโชว์ไว้ตามมุมต่างๆของบ้านด้วยนะคะ